iOS 18.4

iOS 18.4 และ iPadOS 18.4 อัปเดตนี้มีดีอะไรบ้าง?

Apple ปล่อยอัปเดตล่าสุด iOS 18.4 และ iPadOS 18.4 แล้ว! นอกจากจะเน้นแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยครั้งสำคัญ อัปเดตนี้ยังอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ และการปรับปรุง Apple Intelligence ที่จะทำให้ iPhone และ iPad ของคุณฉลาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น มาดูกันว่ามีอะไรเด็ดๆ บ้างที่คุณไม่ควรพลาด

iOS 18.4 / iPadOS 18.4 เปิดตัวพร้อมให้อัพเดทแล้ววันนี้

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2025 ที่ผ่านมา Apple ได้ปล่อยอัปเดตระบบปฏิบัติการล่าสุดสำหรับ iPhone และ iPad นั่นคือ iOS 18.4 และ iPadOS 18.4 ออกมาให้ผู้ใช้งานทั่วโลกได้อัปเดตกันแล้ว หลายคนอาจสงสัยว่าการอัปเดตครั้งนี้มีความสำคัญอย่างไร? คำตอบคือ “สำคัญมาก” เพราะนอกจากการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยหลายรายการแล้ว อัปเดตนี้ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ทั้งการปรับปรุงประสิทธิภาพ และการอัปเกรดความสามารถของ Apple Intelligence ที่จะช่วยให้การใช้งานอุปกรณ์ของคุณสะดวกสบาย ปลอดภัย และชาญฉลาดยิ่งขึ้นกว่าเดิม บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกว่า iOS 18.4 และ iPadOS 18.4 มีอะไรใหม่ และทำไมคุณจึงไม่ควรมองข้ามการอัปเดตครั้งนี้

การแก้ไขช่องโหว่ครั้งสำคัญของ iOS 18.4

หัวใจหลักของการอัปเดต iOS 18.4 และ iPadOS 18.4 ในครั้งนี้ คือการ “อุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย” อย่างจริงจัง Apple ให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเป็นอย่างยิ่ง การปล่อยอัปเดตนี้จึงเป็นการเสริมเกราะป้องกันให้กับ iPhone และ iPad ของคุณจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้นได้บ่อยขึ้น

ภาพรวมการปรับปรุงความปลอดภัย

ตามนโยบายของ Apple บริษัทฯ จะไม่เปิดเผยหรือยืนยันรายละเอียดของปัญหาด้านความปลอดภัยจนกว่าจะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดและปล่อยแพตช์หรืออัปเดตออกมาเรียบร้อยแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่หวังดีนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในทางที่ผิด อย่างไรก็ตาม ในเอกสารประกอบการอัปเดต Apple ได้ระบุถึงการแก้ไขช่องโหว่จำนวนมาก (อ้างอิงด้วยหมายเลข CVE-ID เมื่อเป็นไปได้) ซึ่งครอบคลุมส่วนต่างๆ ของระบบปฏิบัติการ ตั้งแต่ระดับเคอร์เนล (Kernel) ไปจนถึงแอปพลิเคชันต่างๆ

การแก้ไขส่วนใหญ่ที่ได้รับการปรับปรุง เช่น

  • การปรับปรุงการจัดการหน่วยความจำ (Improved memory handling) ลดความเสี่ยงจากข้อผิดพลาดที่เกี่ยวกับการใช้หน่วยความจำ
  • การปรับปรุงการตรวจสอบสิทธิ์และการอนุญาต (Improved checks, additional restrictions, additional entitlement checks): ทำให้แน่ใจว่าแอปหรือกระบวนการต่างๆ เข้าถึงได้เฉพาะข้อมูลและทรัพยากรที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
  • การปรับปรุงการจัดการสถานะ (Improved state management) ป้องกันปัญหาที่เกิดจากการจัดการสถานะของระบบหรือแอปที่ไม่ถูกต้อง
  • การปรับปรุงการตรวจสอบอินพุต (Improved input validation) ป้องกันการโจมตีที่อาศัยการส่งข้อมูลอินพุตที่อันตราย
  • การปรับปรุงการลดทอนข้อมูล (Improved data redaction) ปกปิดหรือลบข้อมูลที่ละเอียดอ่อนได้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ Apple ยังได้รวมการแก้ไขช่องโหว่จากโค้ดโอเพนซอร์สที่ใช้งานอยู่ภายในระบบ เช่น curl, libarchive, และ libxml2 เข้ามาในอัปเดตนี้ด้วย

ตัวอย่างช่องโหว่ที่ได้รับการแก้ไข

เพื่อให้เห็นภาพความสำคัญของการอัปเดตด้านความปลอดภัยเรามาดูตัวอย่างบางส่วนของช่องโหว่ที่ได้รับการแก้ไขใน iOS 18.4 และ iPadOS 18.4 พร้อมผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากไม่ได้รับการแก้ไขกัน

  1. Accessibility แอปพลิเคชันอาจเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ได้
  2. Accounts ข้อมูล Keychain ที่ละเอียดอ่อนอาจถูกเข้าถึงได้จากข้อมูลสำรอง (Backup) ของ iOS
  3. AirDrop แอปพลิเคชันอาจอ่านข้อมูลเมตาดาต้า (Metadata) ของไฟล์โดยพลการได้
  4. Audio การประมวลผลไฟล์เสียงที่สร้างขึ้นโดยมีเจตนาร้าย อาจนำไปสู่การรันโค้ดที่เป็นอันตรายได้ (Arbitrary Code Execution)
  5. Authentication Services การป้อนรหัสผ่านอัตโนมัติ (Autofill) อาจทำงานหลังจากยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ
  6. BiometricKit แอปพลิเคชันอาจทำให้ระบบหยุดทำงานโดยไม่คาดคิดได้
  7. Calendar แอปพลิเคชันอาจหลุดออกจากพื้นที่จำกัดของตัวเอง (Sandbox) ได้

(และอื่นๆ อีกมากมาย) เช่นยังมีช่องโหว่ในส่วนอื่นๆ เช่น CoreServices, Find My, ImageIO, Kernel, Maps, Photos, Safari, Siri, Weather, WebKit ที่อาจนำไปสู่การยกระดับสิทธิ์ (Privilege Escalation), การโจมตีแบบ Cross-Site Scripting (XSS), การปฏิเสธการให้บริการ (Denial-of-Service – DoS), หรือแม้กระทั่งการเขียนทับหน่วยความจำเคอร์เนล (Write Kernel Memory)

จากที่กล่าวไปการแก้ไขช่องโหว่เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Apple ในการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน และเป็นเหตุผลสำคัญที่สุดที่คุณควรอัปเดตเป็น iOS 18.4 และ iPadOS 18.4 โดยเร็วที่สุด

ฟีเจอร์ใหม่และการปรับปรุงที่น่าสนใจ

นอกเหนือจากการอัพเดทแก้ไขเรื่องความปลอดภัยแล้ว iOS 18.4 และ iPadOS 18.4 ยังอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ และการปรับปรุงการทำงานในส่วนต่างๆ ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งาน iPhone และ iPad ของคุณให้ดียิ่งขึ้นไปอีกขั้น มีอะไรน่าสนใจบ้าง มาดูกัน

  1. Prioritize Notifications จัดลำดับการแจ้งเตือนอย่างชาญฉลาด

เบื่อไหมกับการแจ้งเตือนที่ล้นจนแยกไม่ออกว่าอันไหนสำคัญจริง? iOS 18.4 ได้นำเสนอ Prioritize Notifications ระบบจัดการการแจ้งเตือนที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น โดยใช้ Apple Intelligence (บนอุปกรณ์ที่รองรับ) มาทำการวิเคราะห์และจัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนที่เข้ามา ทำให้คุณไม่พลาดข้อความหรือการแจ้งเตือนที่สำคัญจริงๆ โดยการแจ้งเตือนเหล่านี้จะแสดงในส่วนเฉพาะบนหน้าจอล็อค (Lock Screen) เป็นอันดับแรก แต่ไม่ต้องกังวล คุณยังสามารถปัดขึ้นเพื่อดูการแจ้งเตือนทั้งหมดใน Notification Center ได้เหมือนเดิม ช่วยลดความยุ่งเหยิงและให้คุณโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญได้ดีขึ้น

  1. แอปคู่หู Vision Pro (สำหรับผู้ใช้ Vision Pro)

สำหรับผู้ที่มี (หรือวางแผนจะมี) Apple Vision Pro ในอัพเดท iOS 18.4 ได้เพิ่มแอปพลิเคชันคู่หู (Companion App) โดยเฉพาะบน iPhone แอปนี้จะช่วยให้คุณค้นหา เลือกดู และดาวน์โหลดแอปพลิเคชันหรือเนื้อหาต่างๆ สำหรับใช้งานบน Vision Pro ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องสวมใส่ตัวอุปกรณ์อยู่ (อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าปัจจุบัน Apple Vision Pro ยังไม่มีวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย)

  1. Ambient Music ควบคุมเสียงเพลงผ่อนคลายใน Control Center

ต้องการเสียงเพลงหรือบรรยากาศสบายๆ เพื่อช่วยในการนอนหลับหรือเพิ่มสมาธิ? ใน Control Center ของ iOS 18.4 จะมีส่วนควบคุมใหม่ที่เรียกว่า “การเล่นเสียงเพลง” (Ambient Music) เพิ่มเข้ามา ให้คุณเลือกเปิดเสียงบรรยากาศผ่อนคลายได้ง่ายๆ โดยมีให้เลือก 4 รูปแบบตามสถานการณ์ ได้แก่ การนอนหลับ (Sleep), ฟังสบาย (Focus), เพิ่มประสิทธิภาพ (Productivity), และ ใส่ใจสุขภาพ (Mindfulness)

  1. Pause Downloads หยุด/เริ่มดาวน์โหลดแอปได้ตามใจ

เคยไหมที่อยากหยุดการดาวน์โหลดแอปหรืออัปเดตชั่วคราว ไม่ว่าจะเพื่อประหยัดดาต้า หรือให้ความสำคัญกับแอปอื่นก่อน? iOS 18.4 เพิ่มความสามารถเล็กๆ แต่มีประโยชน์อย่างยิ่ง ให้คุณสามารถกด หยุดพัก (Pause) และ ดำเนินการต่อ (Resume) การดาวน์โหลดหรืออัปเดตแอปได้โดยตรงจากหน้าลิสต์ใน App Store เพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการดาวน์โหลดของคุณ

  1. Shortcuts Actions ใหม่: เพิ่มพลังให้การทำงานอัตโนมัติ

สำหรับสาย Power User ที่ชื่นชอบการสร้างคำสั่งลัดอัตโนมัติ (Shortcuts), iOS 18.4 จัดเต็มด้วย Actions ใหม่ๆ มากมาย สำหรับแอปต่างๆ ของ Apple เอง ทำให้คุณสร้างสรรค์ Workflow ที่ซับซ้อนและมีประโยชน์ได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น

  • สั่ง Maps ให้นำทางหลีกเลี่ยงถนนที่รถติดหรือมีค่าผ่านทาง
  • ควบคุม Safari เช่น การป้อนอัตโนมัติ (AutoFill), การบล็อก Pop-up, การปิดแท็บ, หรือเปลี่ยน Search Engine
  • จัดการรายการใน Reminders หรือ Calendar
  • ควบคุม Apple TV, Books, Notes, Voice Memos และ Weather ได้ละเอียดยิ่งขึ้น
  1. Apple News Food Hub (สำหรับสมาชิก News+)

ผู้ที่สมัครสมาชิก Apple News+ (ซึ่งอาจยังไม่เปิดให้บริการเต็มรูปแบบในไทย) จะได้พบกับส่วนใหม่ที่น่าสนใจคือ Food Hub ซึ่งรวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับอาหารโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นสูตรอาหารนับหมื่นรายการ ข้อมูลร้านอาหาร เคล็ดลับการกินเพื่อสุขภาพ และแนะนำอุปกรณ์เครื่องครัวต่างๆ ไว้ในที่เดียว

  1. จัดหมวดหมู่อีเมลอัตโนมัติใน Mail บน iPad

ผู้ใช้งาน iPad จะได้รับประสบการณ์การจัดการอีเมลที่ดียิ่งขึ้นใน iPadOS 18.4 ด้วยฟีเจอร์ การจัดหมวดหมู่อีเมลอัตโนมัติ (Mail Categorization) ที่จะช่วยคัดแยกอีเมลประเภทต่างๆ เช่น อีเมลหลัก (Primary), ธุรกรรม (Transactions), โปรโมชัน (Promotions) ทำให้การจัดการกล่องจดหมาย (Inbox) เป็นระเบียบและง่ายดายยิ่งขึ้น คล้ายกับที่ผู้ใช้ iPhone ได้รับไปก่อนหน้านี้

  1. หน้าจอ CarPlay ที่อาจใหญ่ขึ้น

สำหรับผู้ที่ใช้งาน CarPlay เป็นประจำ มีรายงานว่าใน iOS 18.4 หน้าจอหลัก (Home Screen) ของ CarPlay อาจได้รับการปรับปรุงให้แสดงไอคอนแอปได้ถึง 3 แถว จากเดิมที่แสดงได้เพียง 2 แถว (สำหรับผู้ใช้บางราย) ซึ่งช่วยให้เข้าถึงแอปต่างๆ ได้สะดวกขึ้นโดยไม่ต้องเลื่อนหน้าจอบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้อาจยังไม่ปรากฏสำหรับผู้ใช้งานทุกคนในทันที และอาจขึ้นอยู่กับขนาดหน้าจอของรถยนต์ด้วย

  1. Emoji ใหม่ เพิ่มสีสันการสื่อสาร

เพิ่มสีสันและความหลากหลายให้กับการแชทและการสื่อสารของคุณด้วย Emoji ใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาใน iOS 18.4 เช่น ใบหน้าคล้ำ (Darker face), ลายนิ้วมือ (Fingerprint), ต้นไม้ไร้ใบ (Leafless Tree),Root Vegetable, พิณ (Harp), พลั่ว (Shovel), และน้ำสาด (Splash)

Emoji iOS 18.4
  1. ปรับปรุงแอป Photos ฟิลเตอร์ใหม่ จัดการง่ายขึ้น

แอป Photos ได้รับการปรับปรุงหลายอย่างเพื่อการจัดการรูปภาพที่ดียิ่งขึ้น

  • ฟิลเตอร์ใหม่ เพิ่มตัวเลือกฟิลเตอร์ “แชร์กับคุณ” (Shared with You) และ “ไม่อยู่ในอัลบั้ม” (Not in Albums) ในหน้าคลังรูปภาพ (Library) ช่วยให้ค้นหารูปภาพตามเงื่อนไขเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น
  • การจัดเรียงใหม่ เพิ่มตัวเลือกการจัดเรียงรูปภาพในอัลบั้ม
  • จัดการรายการที่ลบล่าสุด เพิ่มตัวเลือกให้สามารถลบหรือกู้คืนรูปภาพทั้งหมดใน “รายการที่ลบล่าสุด” (Recently Deleted) ได้ในครั้งเดียว สะดวกกว่าเดิม
  • ความเป็นส่วนตัว รูปภาพที่ซ่อนไว้ (Hidden Album) จะไม่ถูกนำเข้าไปยัง Mac หรือ PC หากอัลบั้มนั้นถูกล็อคด้วย Face ID หรือ Touch ID เพิ่มความปลอดภัยอีกชั้น
  1. AirPods Max (USB-C): รองรับ Lossless และ Latency ต่ำ

ข่าวดีสำหรับเจ้าของ AirPods Max รุ่นพอร์ต USB-C! เมื่ออัปเดต Firmware ล่าสุด (ที่มาพร้อมกับ iOS 18.4) หูฟังของคุณจะ รองรับการฟังเสียงแบบ Lossless คุณภาพสูงถึง 24 บิต / 48 kHz ผ่านการเชื่อมต่อสาย USB-C และยังรองรับ เสียงแบบ Ultra-low latency อีกด้วย มอบประสบการณ์การฟังเพลงและเสียงที่ดีขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงสูงสุด

การปรับปรุงส่วนอื่นๆที่มีประโยชน์ไม่แพ้กัน

นอกเหนือจากฟีเจอร์ใหญ่ๆ แล้ว iOS 18.4 และ iPadOS 18.4 ยังมีการปรับปรุงเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้งานอีกด้วย เช่น

  • ไอคอน Privacy ชัดเจนขึ้น

จุดสีส้ม (แสดงการใช้ไมโครโฟน) และจุดสีเขียว (แสดงการใช้กล้อง) จะมีพื้นหลังสีดำ ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นบนพื้นหลังต่างๆ

  • Safari

สามารถตั้งค่าให้แสดงหรือไม่แสดงประวัติการค้นหาล่าสุด (Recent Searches) ได้ในการตั้งค่า

  • Widgets

มี Widgets ใหม่สำหรับแอป Podcasts ให้เลือกใช้งาน

  • Wallet

จัดระเบียบเมนูต่างๆ ในแอป Wallet ใหม่ให้ใช้งานง่ายขึ้น

  • ภาษา

รองรับภาษาของระบบเพิ่มขึ้นอีก 10 ภาษา

  • บัญชีเด็ก

ปรับปรุง Setup Assistant หรือผู้ช่วยการตั้งค่า สำหรับการตั้งค่าบัญชีเด็กให้ราบรื่นขึ้น

Apple Intelligence ฉลาดขึ้นไปอีกขั้น

Apple Intelligence ไม่ได้หยุดแค่ฟีเจอร์ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า ใน iOS 18.4 และ iPadOS 18.4 ความสามารถด้าน AI ปัญญาประดิษฐ์นี้ได้รับการปรับปรุงและเพิ่มฟังก์ชันใหม่ๆ เข้ามา ทำให้การทำงานร่วมกับ iPhone และ iPad ของคุณ (บนรุ่นที่รองรับ) เป็นไปอย่างชาญฉลาดและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น โดยที่เด่นๆ คือ

  1. การทำงานร่วมกับ Prioritize Notifications
Prioritize Notifications

ดังที่กล่าวไปในหัวข้อฟีเจอร์ใหม่ ความสามารถเด่นอย่าง Prioritize Notifications นั้นขับเคลื่อนโดย Apple Intelligence อย่างเต็มรูปแบบ นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำ AI มาช่วยวิเคราะห์บริบทและความสำคัญของการแจ้งเตือนต่างๆ เพื่อคัดกรองและจัดลำดับความสำคัญให้โดยอัตโนมัติ แสดงให้เห็นถึงการผสาน AI เข้ากับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว

  1. สไตล์ภาพสเก็ตใน Image Playground
Image Playground

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสร้างสรรค์ภาพด้วย AI แอป Image Playground ได้เพิ่ม สไตล์ภาพสเก็ต (Sketch) เข้ามาเป็นตัวเลือกใหม่ นอกเหนือจากสไตล์ Animation และ Illustration ที่มีอยู่เดิม ช่วยให้คุณสามารถสร้างรูปภาพในสไตล์ลายเส้นดินสอหรือปากกา เพิ่มความหลากหลายและมุมมองทางศิลปะให้กับการสร้างสรรค์จินตนาการของคุณ

  1. ปุ่ม Genmoji แบบใหม่
Genmoji

มีการปรับปรุงเล็กน้อยแต่สังเกตได้บนคีย์บอร์ด: ปุ่มสำหรับสร้าง Genmoji (Emoji ที่สร้างโดย AI ตามคำสั่งของคุณ) จะแสดงผลเป็น ข้อความคำว่า “Genmoji” อย่างชัดเจน แทนที่จะเป็นไอคอนรูปดาวเหมือนในเวอร์ชันก่อนหน้า ซึ่งอาจช่วยให้ผู้ใช้ใหม่เข้าใจและค้นพบฟังก์ชันนี้ได้ง่ายขึ้น

  1. เรียก Visual Intelligence ผ่านปุ่ม Action

ข่าวดีสำหรับผู้ใช้ iPhone รุ่นที่รองรับ Apple Intelligence (ซึ่งรวมถึง iPhone 15 Pro และ Pro Max) คุณสามารถ ตั้งค่าปุ่ม Action (ปุ่มด้านข้างตัวเครื่อง) ให้กดเพื่อเรียกใช้งาน Visual Intelligence ได้โดยตรง ทำให้การใช้ AI เพื่อวิเคราะห์สิ่งที่อยู่บนหน้าจอ หรือสิ่งที่กล้องกำลังมองเห็น (เช่น แปลภาษา, ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุ) ทำได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม เพียงแค่กดปุ่มเดียว

  1. เพิ่มการควบคุม AI ใน Control Center

เพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงฟังก์ชัน AI ด้วยการ เพิ่มส่วนควบคุมที่เกี่ยวข้องกับ Apple Intelligence ลงใน Control Center ได้ ตามความต้องการของคุณ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเพิ่มปุ่มสำหรับ

  • Talk to Siri เริ่มสนทนากับ Siri ด้วยเสียง
  • Type to Siri พิมพ์ข้อความเพื่อคุยกับ Siri
  • Visual Intelligence เรียกใช้ฟังก์ชันวิเคราะห์ภาพ/หน้าจอ

ทำให้คุณสามารถเรียกใช้ความสามารถเหล่านี้ได้ทันทีจากทุกที่ โดยไม่ต้องออกจากแอปพลิเคชันที่ใช้งานอยู่

  1. ขยายการรองรับภาษาและภูมิภาค

เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้ได้กว้างขวางขึ้น Apple Intelligence ใน iOS 18.4 ได้ ขยายการรองรับภาษาและภูมิภาคเพิ่มเติม อย่างเป็นทางการ นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ (สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, แคนาดา, แอฟริกาใต้) แล้ว ยังรองรับภาษาหลักอื่นๆ ได้แก่ ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, โปรตุเกส (บราซิล), สเปน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, และจีน (ตัวย่อ) นอกจากนี้ยังรองรับภาษาอังกฤษท้องถิ่นสำหรับ สิงคโปร์และอินเดีย อีกด้วย นับเป็นก้าวสำคัญในการนำ AI ของ Apple ไปสู่ผู้ใช้ทั่วโลก

การอัปเดตเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า Apple กำลังผสานรวม AI เข้ากับประสบการณ์การใช้งาน iOS และ iPadOS อย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบความสะดวกสบายและความสามารถใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้ในหลากหลายด้าน

อุปกรณ์รุ่นไหนรองรับ iOS 18.4 และ iPadOS 18.4 บ้าง?

การอัปเดต iOS 18.4 และ iPadOS 18.4 เปิดให้ใช้งานได้บนอุปกรณ์หลากหลายรุ่น อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ใหม่อย่าง Apple Intelligence นั้นมีข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ ทำให้รองรับเฉพาะอุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ เท่านั้น

รายชื่อ iPhone และ iPad ที่รองรับ iOS/iPadOS 18.4

iPhone (รองรับ iOS 18.4) ได้แก่

  • iPhone 15, 15 Plus, 15 Pro, 15 Pro Max
  • iPhone 14, 14 Plus, 14 Pro, 14 Pro Max
  • iPhone 13, 13 mini, 13 Pro, 13 Pro Max
  • iPhone 12, 12 mini, 12 Pro, 12 Pro Max
  • iPhone 11, 11 Pro, 11 Pro Max
  • iPhone XS, XS Max
  • iPhone XR
  • iPhone SE (รุ่นที่ 2 และ 3)

iPad (รองรับ iPadOS 18.4)

  • iPad Pro 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 3 และใหม่กว่า)
  • iPad Pro 11 นิ้ว (รุ่นที่ 1 และใหม่กว่า)
  • iPad Air (รุ่นที่ 3 และใหม่กว่า)
  • iPad (รุ่นที่ 7 และใหม่กว่า)
  • iPad mini (รุ่นที่ 5 และใหม่กว่า)

(หมายเหตุ รายชื่อนี้อิงตามข้อมูลทั่วไป อาจมีรายละเอียดปลีกย่อยสำหรับฟีเจอร์บางอย่าง โปรดตรวจสอบความเข้ากันได้กับรุ่นอุปกรณ์ของคุณอีกครั้ง)

รุ่นที่รองรับฟีเจอร์ Apple Intelligence

สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือ ไม่ใช่ทุกอุปกรณ์ที่อัปเดตเป็น iOS 18.4 จะสามารถใช้งาน Apple Intelligence ได้ เนื่องจากฟีเจอร์นี้ต้องการพลังการประมวลผลขั้นสูงจากชิปเซ็ตเฉพาะ รุ่นที่รองรับ Apple Intelligence ในปัจจุบัน (ตามข้อมูลที่ระบุ) ได้แก่

  • iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max
  • iPhone 16 Series (และรุ่นที่ใหม่กว่าในอนาคต)

ดังนั้น หากคุณใช้ iPhone รุ่นเก่ากว่า iPhone 15 Pro คุณจะยังคงได้รับประโยชน์จากการอัปเดต iOS 18.4 ในด้านความปลอดภัยและฟีเจอร์อื่นๆ แต่จะไม่สามารถใช้งานฟังก์ชันที่ต้องอาศัย Apple Intelligence ได้ เช่น Prioritize Notifications แบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ, Image Playground, Genmoji, หรือการเรียก Visual Intelligence ผ่านปุ่ม Action

ทำไมคุณควรอัปเดตเป็น iOS 18.4 / iPadOS 18.4

การอัปเดต iOS 18.4 และ iPadOS 18.4 ถือเป็นก้าวสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยเหตุผลหลักดังนี้

  1. ความปลอดภัย นี่คือเหตุผลที่สำคัญที่สุด การอัปเดตนี้อุดช่องโหว่ร้ายแรงจำนวนมาก ปกป้องข้อมูลส่วนตัวและความปลอดภัยของอุปกรณ์คุณจากภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น
  2. ฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้งานได้จริง ตั้งแต่การจัดการการแจ้งเตือนที่ฉลาดขึ้น (Prioritize Notifications), การควบคุมเสียง Ambient Music, ความยืดหยุ่นในการดาวน์โหลดแอป (Pause Downloads), การเพิ่มพลังให้ Shortcuts, ไปจนถึง Emoji ใหม่ และการปรับปรุงแอป Photos และ Mail บน iPad ล้วนช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการใช้งาน
  3. Apple Intelligence ที่พัฒนาต่อเนื่อง สำหรับผู้ใช้ iPhone รุ่นที่รองรับ การอัปเดตนี้นำเสนอความสามารถ AI ที่ชาญฉลาดและเข้าถึงง่ายขึ้น ทั้งการสร้างภาพสเก็ต, การเรียกใช้ Visual Intelligence อย่างรวดเร็ว และการควบคุมผ่าน Control Center
  4. ประสบการณ์ใช้งานโดยรวมที่ดีขึ้น นอกเหนือจากฟีเจอร์ใหม่แล้ว การแก้ไขข้อบกพร่อง (Bug Fixes) และการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมยังช่วยให้การทำงานของระบบมีความเสถียรและราบรื่นยิ่งขึ้น

โดยสรุปแล้ว iOS 18.4 และ iPadOS 18.4 เป็นอัปเดตที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความปลอดภัย ควบคู่ไปกับการเพิ่มฟีเจอร์และการปรับปรุงต่างๆ ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งาน iPhone และ iPad ของคุณ ขอแนะนำให้ผู้ใช้งานทุกคนทำการอัปเดตโดยเร็วที่สุด (อย่าลืมสำรองข้อมูลก่อนทำการอัปเดต) เพื่อรับประโยชน์การใช้งานสูงสุดจากอุปกรณ์ของคุณ

ติดตามข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ https://tap-towin.com/

1 Comment

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *